เวิร์คพอยท์เติบโตต่อเนื่อง ผลประกอบการโดดเด่น อันดับ 1 กลุ่มดิจิทัลทีวี

30 สิงหาคม 2559

                 นับเป็นช่องดิจิทัลทีวีที่เติบโตได้ต่อเนื่อง สำหรับช่องเวิร์คพอยท์ เลข 23  ล่าสุดกำไรครึ่งปีแรก 162.6 ล้านบาท  รายได้มาจากธุรกิจทีวีเป็นหลัก โดย นายสุรการ ศิริโมทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานการเงินการลงทุน  ได้รายงานผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559 ให้ฟังว่า

“กำไรครึ่งปีแรกของบริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ขณะนี้อยู่ที่ 162.6 กว่าล้าน เพิ่มมา 111% จากครึ่งปีที่แล้ว ที่กำไรประมาณ 77 ล้าน  โดยธุรกิจที่เติบโตขึ้นมากคือธุรกิจช่องเวิร์คพอยท์ ซึ่งมีรายได้คิดเป็นประมาณร้อยละ 90 ของรายได้รวม  ทั้งนี้อัตราการขายโฆษณาของช่องเวิร์คพอยท์ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  เพราะเรตติ้งปรับขึ้นมาโดยตลอด  ถ้าเทียบในช่วงปี 2557  ตอนที่เริ่มต้นช่องเวิร์คพอยท์ ในไตรมาส 2  เรตติ้งเราอยู่ที่ประมาณ 0.25   แต่ปัจจุบันเรตติ้งเราอยู่ที่ประมาณ 1.2   ทำให้อัตราโฆษณาปรับขึ้นตามเรตติ้งที่เพิ่มมากขึ้นด้วย  จากขายเฉลี่ยนาทีละหมื่นกว่าบาท ตอนนี้โดยเฉลี่ยก็ห้าหมื่นกว่าบาท  และมีแนวโน้มจะปรับขึ้นเรื่อยๆ  โดยปีนี้เป้าการเติบโตของรายได้รวมทั้งกลุ่มบริษัทน่าจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ คือปีนี้รายได้รวมน่าจะอยู่ที่ 3,000 ล้าน  รายได้หลักอยู่ที่ธุรกิจช่องเวิร์คพอยท์ประมาณ 2,500-2,600 ล้านบาท ส่วนธุรกิจอื่นๆ เช่น  คอนเสิร์ต และ Event  รายได้รวมกันประมาณ 300 ล้าน ที่เหลือก็จะเป็นธุรกิจอื่นๆ   กำไรของปีนี้เรามองที่อัตรากำไร net profit margin  อยู่ที่ 10 -11 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นเป้าเดิมที่เคยตั้งไว้  

            ตอนนี้เราปรับเปลี่ยนคอนเทนต์อยู่เรื่อยๆ  มีการเพิ่มคอนเทนต์และมีการปรับผัง อย่างครึ่งปีหลังมีการแทรกรายการใหม่เข้าไป  เช่น รายการไมค์หมดหนี้  ซึ่งออกอากาศไปบ้างแล้ว ณ ปัจจุบัน มีเรตติ้งสูงถึง 3.23  ซึ่งถือว่ามีแนวโน้มดี  โดยรายการนี้ออกอากาศทุกวันจันทร์ -พฤหัส ความยาวรายการประมาณ 45 นาที  นอกจากนี้รายการของช่องที่มีเรตติ้งสูงสุด คือ  ไมค์ทองคำ , ไมค์ทองคำเด็ก , I Can See Your Voice, ปริศนาฟ้าแลบ และ ชิงร้อยชิงล้าน ว้าว ว้าว ว้าว  ในไตรมาส 4 เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมเราจะมีการปรับผัง โดยการดึงรายการฟอร์แมทใหญ่เข้ามา อาทิ  Let me in Thailand season 2 ,The Mask singer, ไมค์ทองคำหมอลำฝังเพชร, เดี่ยวดวลไมค์ ฯลฯ  ส่วนใหญ่เป็นรายการประเภทวาไรตี้  ซึ่งคาดว่าจะมีผลตอบรับด้านเรตติ้งเป็นอย่างดี สำหรับละครเรามีอยู่แล้วไตรมาสละ 1 เรื่อง ล่าสุดที่กำลังจะออนแอร์คือเรื่อง แรงชัง ละครแนวพีเรียด เริ่ม 12 ก.ย.นี้

              หลายๆช่องก็เพิ่มตัวคอนเทนท์ต่างๆเข้ามา แต่เวิร์คพอยท์เราก็ทำรายการที่เราถนัดได้ดีอย่างต่อเนื่องและสามารถรักษาตำแหน่งเรตติ้งอันดับ 3 ของช่องทั้งหมดไว้ได้  เรตติ้งในภาพรวมก็เป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ครับ  เพราะฉะนั้นจึงเชื่อมั่นว่าเรตติ้งเป้าหมายเฉลี่ยทั้งปีที่ 1.2 เป็นไปได้อยู่แล้ว และสิ้นปีน่าจะเกิน 1.2 ด้วยซ้ำ”