workpoint

ปี 2567 ถือได้ว่าเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของบริษัท เนื่องจากบริษัทได้ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจหลากหลายรูปแบบเพื่อรองรับต่อการเติบโตของธุรกิจ ท่ามกลางความท้าทายด้านเศรษฐกิจต่างๆ มากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งยังคงมีสถานการณ์ชะลอตัวส่งผลให้เม็ดเงินโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัทมีอย่างจำกัด

ทั้งนี้ สำหรับกลุ่มธุรกิจโทรทัศน์นั้น ในปี 2567 บริษัทได้ปรับกลยุทธ์การขายให้มีความหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเพิ่มมากขึ้น
โดยบริษัทได้เพิ่มสัดส่วนการขายรายการประเภท TAILOR MADE ซึ่งเป็นรายการที่บริษัทสร้างสรรเป็นพิเศษให้ตรงต่อวัตถุประสงค์เชิงธุรกิจของลูกค้าแต่ละราย โดยรายการประเภท TAILOR MADE ในปี 2567 ที่สำคัญได้แก่ รายการ MIX MASTER และ รายการ GENWIT ซึ่งแม้จะเป็นรายการที่จัดทำขึ้นเฉพาะสำหรับลูกค้า แต่ก็ได้รับกระแสตอบรับจากกลุ่มผู้ชมในกลุ่มต่างๆ เป็นอย่างดี และจากความสำเร็จของรูปแบบรายการ บริษัทคาดว่าจะมีรายการในลักษณะดังกล่าวต่อเนื่องอีกในปี 2568 นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้แก่กลุ่มลูกค้า บริษัทยังได้นำเสนอรูปแบบการขายที่ครอบคลุมสื่อหลากหลายประเภทให้มากขึ้นทั้ง TV ONLINE และ EVENT ให้ลูกค้าได้เลือกใช้ช่องทางในการประชาสัมพันธ์ อาทิเช่น รายการ ไมค์ทองคำ ซึ่งนอกเหนือจากสื่อโฆษณาทางโทรทัศน์แล้ว ลูกค้ายังได้รับสิทธิประโยชน์การประสัมพันธ์ในรูปแบบงาน EVENT ในหลากหลายจังหวัดทำให้ผลิตภัณฑ์ของลูกค้าผู้ซึ่งสนับสนุนรายการสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การขายในรูปแบบดังกล่าวได้ส่งผลให้ในปี 2567 บริษัทมีรายได้จากกลุ่มธุรกิจการจัดงาน EVENT เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย นอกเหนือจากรายได้จากกลุ่มธุรกิจโทรทัศน์
นอกจากนี้ ในปี 2567 บริษัทยังได้กำหนดนโยบายการลงทุนเพิ่มเติมในกลุ่มธุรกิจบริหารศิลปินเพื่อรองรับต่อกระแสการเติบโตของ T POP ในอนาคต โดยนอกเหนือจากกลุ่มศิลปิน 4EVE และ ATLAS ซึ่งถือได้ว่าเป็นกลุ่มศิลปินชั้นนำ ณ ปัจจุบัน บริษัทได้ริเริ่มโครงการ XOXO NEXT GEN เพื่อเฟ้นหาศิลปินหน้าใหม่เพิ่มเติม โดยจะเริ่มทยอยเปิดตัวผลงานต่างๆ ในปี 2568 นี้ ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าว่ากลุ่มศิลปินที่เพิ่มขึ้นนั้นจะเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้แก่บริษัทได้เป็นอย่างดีในอนาคต สนับสนุนทั้งกลุ่มธุรกิจหลักของบริษัทในปัจจุบันและส่งผลดีต่อการขยายธุรกิจกลุ่ม ENTETAINMENT ในกลุ่มอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจงานแสดงประเภทคอนเสิร์ตและละครเวที ธุรกิจภาพยนตร์ และธุรกิจเพลง เป็นต้น
นอกจากการพัฒนากลุ่มธุรกิจต่างๆ แล้วนั้น บริษัทยังให้ความสำคัญต่อกรอบการทำงานอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน สังคม และชุมชน ควบคู่กัน โดยในปี 2567 บริษัทได้เป็นตัวแทนในการรับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ ภายใต้ชื่อโครงการ “คนไทยช่วยคนไทย” รวมถึงได้เพิ่มนโยบายสวัสดิการให้แก่พนักงานให้ครอบคลุมมากขึ้น อาทิเช่น สวัสดิการเงินสมรสให้แก่พนักงานที่มีเพศเดียวกันเพื่อส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ และสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลซึ่งครอบคลุมถึงการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต เพื่อส่งเสริมการทำงานที่ดีมีประสิทธิภาพ
โอกาสนี้ ในนามของคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคน ผมใคร่ขอขอบคุณ ผู้ถือหุ้น ลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ สถาบันการเงิน หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง และผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ที่มอบความไว้วางใจและมีส่วนในการสนับสนุนบริษัทด้วยดีเสมอมา ขอให้ทุกท่านเชื่อมั่นว่าบริษัทจะมุ่งมั่นทุ่มเทในการดำเนินธุรกิจ ควบคู่กับนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อมภายใต้หลักจริยธรรมและแนวทางการกำกับดูแลกิจการที่ดีเพื่อความมั่นคงและยั่งยืนสืบไป